ภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืด

เงินเฟ้อ
หมายถึง ภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการทั่ว ๆ ไป โดยเฉลี่ยสูงขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุของเงิน
เฟ้อ มี 2 ประการ คือ เกิดจากอุปสงค์ตึง และเกิดจากต้นทุนผลัก
เมื่อเกิดเงินเฟ้อจะมีผลกระทบต่อการกระจายรายได้ ความต้องการถือเงิน
การสะสมทุน การคลังของรัฐบาล และการค้าระหว่างประเทศ การแก้ไขเงินเฟ้อ
ทำได้โดยลดอุปสงค์มวลรวมลง
เงินฝืด
หมายถึง ภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการทั่ว ๆ ไป ลดลงเรื่อย ๆ เงินฝืดเกิดขึ้นเนื่องจากอุปสงค์มวลรวมลดลง
เงินฝืดจะทำให้การลงทุนลดลง การจ้างงานลดลง และการว่างงานจะมากขึ้น
การแก้ไขปัญหาเงินฝืด ทำได้โดยกระตุ้นให้อุปสงค์มวลรวมเพิ่มขึ้น
ภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืด
สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศด้อยพัฒนา ประเทศพัฒนา
หรือประเทศอุตสาหกรรม ถ้าเป็นภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืดอย่างอ่อน ๆ
ย่อมเกิดผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ
แต่ถ้าเกิดภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืดอย่างปานกลางและอย่างรุนแรงแล้ว
ย่อมสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจอย่างมากต่อประเทศชาติ
การแก้ไขไม่สามารถกระทำให้สำเร็จลุล่วงในระยะเวลาอันสั้น
นอกจากใช้นโยบายทางการเงินและการคลังแล้ว ประชาชนในประเทศจะต้องร่วมมือด้วย
เพราะประเทศชาติเป็นเรื่องของคนเป็นจำนวนมาก ไม่เหมือนกับระบบครอบครัว
ซึ่งแก้ไขได้รวดเร็วกว่า
บทความเงินเฟ้อ
ลักษณะที่ 1 คือ DEMAND PULL คือ
ประชาชนมีความต้องการในสินค้าและบริการมากขึ้น
ขณะที่สินค้ามีน้อยกว่าความต้องการ ทำให้เกิดความต้องการมากกว่าสินค้า
ราคาสินค้าจึงแพงขึ้นเรื่อย ๆ ประชาชนต้องใช้เงินจำนวนมากขึ้น
ซื้อสินค้าได้จำนวนเท่าเดิมกรณีที่ 2 Cost Push หมายถึง ภาวะเงินเฟ้อที่เกิดจากต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการสูงขึ้น เรื่อย ๆ (กรณีประเทศไทย ภาวะเงินเฟ้อปัจจุบันเกิดจากสาเหตุนี้เป็นหลักเนื่องจาก ปัจจัยการผลิตที่สำคัญคือราคาน้ำมัน ทำให้ต้นทุนสินค้าและบริการแพงขึ้น เมื่อราคาสินค้าและบริการแพงมากขึ้น ค่าจ้างแรงงานเดิมจะมีค่าเงินน้อยลงเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อตามที่กล่าวแล้ว ข้างต้น ดังนั้น การเพิ่มค่าแรงด้านหนึ่งทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น (ของแพง) แต่ในด้านกลับกัน ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ก็เป็นต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการตัวหนึ่ง ทำให้สินค้าและบริการมีต้นทุนสูงขึ้น ราคาก็แพงขึ้นเช่น กัน กรณีการขาดดุลการค้า โดยหลักใหญ่คือ สินค้าส่งออกน้อยกว่า ซื้อสินค้าจากต่างประเทศเข้ามา (กรณีของไทยปัจจุบัน การขาดดุลการค้า มีสาเหตุจากการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศเนื่องจากประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้ ผลิตน้ำมันได้มากเท่ากับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ) ดังนั้น เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการขาดดุลการค้าคือ ค่าเงินบาทอ่อนตัวลง หมายความว่า ประเทศไทยต้องใช้เงินบาทมากขึ้น ในการซื้อสินค้าจากต่างประเทศในจำนวนเท่าเดิม
กล่าวโดยสรุป ผลต่อเศรษฐกิจไทย ตามปัจจัยเรื่องภาวะเงินเฟ้อ
การขาดดุลการค้า ภาวะราคาน้ำมันสูงขึ้น และค่าแรงเพิ่มขึ้น
เป็นสัญญาณที่แสดงว่า เศรษฐกิจไทยเริ่มมีปัญหา เงินในกระเป๋าของประชาชน
น้อยลง ของแพงขึ้น คนจะซื้อสินค้าและบริการน้อยลง
บริษัทห้างร้านที่ผลิตสินค้าและบริการก็จะขายของได้น้อยลง
ผู้ผลิตสินค้าและบริการมีต้นทุนการผลิตสุงขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันและค่าแรง
ที่เพิ่มขึ้น แต่ของขายได้น้อยลง ก็จะลดกำลังการผลิตลง
หากเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น ก็จะมีการปลดคนงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย
คนตกงานก็ไม่มีกำลังซื้อ ดังนั้น เศรษฐกิจหดตัวลง หากตัวเลข GDP ปี 47
เท่ากัน 5.8 แต่ปี 48 ตัวเลขออกมาเป็น 4.5 ถือว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลง
หากตัวเลข GDP ต่ำกว่าตัวเลขเงินเฟ้อหมายถึง เศรษฐกิจไทย กำลังถดถอย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น