หมิวสวย

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คนรวยด้วยการทำงาน



คนรวยด้วยการทำงาน

( ที่มา : คอลัมภ์เข็มทิศเงินทุน  นสพ.เดลินิวส์  วันเสาร์ ที่ 13 พฤศจิกายน 2553 )
                 คนเราเกิดมานั้นจะมีวัฏจักรของชีวิต ซึ่งชีวิตเฉลี่ยของคนเราส่วนใหญ่อยู่ประมาณ 70-75 ปี หรือคิดเป็นจำนวนวันแล้วก็จะอยู่ที่เฉลี่ยไม่เกิน 30,000 วันเท่านั้น มีคนจำนวนไม่กี่คนเท่านั้นที่มีอายุเกินกว่า100 ปี ดังนั้นการอยู่ในโลกนี้จึงน่าจะอยู่อย่างมีความหมายและสร้างสรรค์สิ่งที่ดี ไว้กับโลกนี้ สิ่งสำคัญประการหนึ่งของการมีชีวิต อยู่อย่างมีคุณค่าก็คือ การทำงานเพราะงานจะทำให้คนเรามีรายได้สำหรับการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน
                มีคนเพียงจำนวนน้อยที่โชคดีเกิดมาบนกองเงินกองทองที่ไม่จำเป็นต้องทำงานและมีคนจำนวนน้อยที่ได้ทำงานที่สบายและมีรายได้สูงแต่คนส่วนใหญ่แล้วต้องทำงานหนัก เพื่อเลี้ยงชีพและเลี้ยงดูครอบครัว
   
คนจำนวนมากต้องทำงานหนักและเป็นงานที่ลำบากและด้วยค่าแรงจำนวนน้อยนิดแต่ไม่อยากให้ท่านย่อท้อหรือสิ้นหวัง โดยเฉพาะคนที่ไม่มีความสุขกับการทำงาน ดังที่ได้เคยกล่าวมาโดยตลอดว่าหากคนเรายังไม่มีอิสรภาพทางการเงินแล้วก็คงต้องทำใจให้รักงานที่ทำอยู่(แม้ว่าจะไม่ชอบ) แต่ถ้าหากมีอิสรภาพทางการเงินแล้ว(หมายถึงการมีเงินออมที่เพียงพอจะอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานแล้ว)ก็จะสามารถเลือกทำงานที่ตนรักได้
    เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต่างอยากมีงานที่สบายและอยากร่ำรวยเร็ว ๆเราจึงเห็นคนส่วนหนึ่งเลือกที่ทำงานผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น การค้ายาเสพติดและมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่หวังความร่ำรวยโดยหวังพึ่งโชคลาภ
   
แต่ถ้าหากศึกษาถึงประวัติของเศรษฐีและมหาเศรษฐีของประเทศไทยและมหาเศรษฐีของโลกนั้น ส่วนใหญ่แล้วคนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะประสบความสำเร็จด้วย การทำงานหนักมีความขยันหมั่นเพียร และรู้จักเก็บหอมรอมริบดังนั้นจึงอยากจะบอกย้ำว่างานหนักไม่เคยทำร้ายใคร แต่การทำงานหนักจะทำให้คนเรามีน้ำอดน้ำทน มีประสบการณ์และมีความสามารถเพิ่มขึ้น
   ในวันนี้จึงขอยกตัวอย่างของนิทานที่เล่าสืบต่อกันมาของคนรวยที่ต้องเรียนรู้จากประสบการณ์จริง เรื่องคือ กระทาชายนายหนึ่ง ชื่อบุญมาซึ่งเป็นคนจนและไม่ชอบ ทำงาน แต่ก็อยากจะร่ำรวยในแต่ละวันก็คิดฟุ้งซ่านในการจะหาสูตรทำทองคำให้ได้เพื่อ ที่จะร่ำรวยอย่างรวดเร็ว
          เดือดร้อนถึงภรรยาของเขาจึงได้เอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อของตนเองพ่อตาซึ่งเป็นคนฉลาด จึงหาวิธีการแก้ไขโดยการเรียกนายบุญมาไปพบและบอกว่าพ่อมี สูตรลับสามารถทำทองคำได้ แต่ต้องใช้นวลใบตอง(ผงขาวละเอียดที่จับอยู่หลังใบตองซึ่งมีน้ำหนักเบามาก) หนัก 3ชั่งเป็นส่วนประกอบสำคัญและหากนวลใบตองได้ครบเมื่อใดก็เอามาให้และจะบอกสูตร นายบุญมารู้สึกดีใจมากเมื่อกลับบ้านมาก็ชวนภรรยาลงมือถางที่ดินปลูกกล้วยเป็นการใหญ่ เขาปลูกกล้วยจำนวนมากเพื่อสะสมนวลใบตอง 
          ขณะที่บุญมาเอาแต่เก็บนวลใบตอง ภรรยาของเขาก็ตัดกล้วย ใบตองและทุกส่วนของต้นกล้วยไปขายที่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และได้ทำเช่นนี้อยู่เป็นเวลานับหลายสิบปีจนสองผัวเมียกลายเป็นเศรษฐีจากการ ขายกล้วยและผลิตภัณฑ์จากต้นกล้วย จนกระทั่งนายบุญมาเก็บสะสมนวลใบตองได้ครบ 3 ชั่ง ก็ชวนภรรยายกห่อผ้าที่เก็บนวลใบตองไปหาพ่อตาและบอกว่า วันนี้ตนเก็บนวลของใบตองได้ครบแล้ว จะมาถามหาสูตรที่จะทำทองคำได้ พ่อตาจึงตอบว่าจริง ๆ แล้วสูตรที่ว่านั้นไม่มีหรอกแต่ตอนนี้บุญมาและภรรยาร่ำรวยจากการที่เมียของเขามุ่งมั่นบากบั่นทำงานหนักแล้วตอนนี้เจ้ามีเงินจากการปลูกกล้วยจนมีเงินที่มากพอที่จะซื้อทองคำได้อย่าง สบายแล้ว ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการแปลงนวลใบตองเป็นทองคำ อย่าได้คิดเพ้อฝันไปถึงเรื่องที่ไม่เป็นจริง เพราะสิ่งที่จะทำให้คนรวยได้ แท้ที่จริงแล้วก็คือการทำงานหนักเท่านั้น”.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น